
IQ และ EQ คืออะไรทำไมถึงสำคัญ ?
คุณพ่อคุณแม่คงเคยได้ยิน 2 คำนี้บ่อยๆ เพราะเป็นพื้นฐานที่สำคัญเป็นอันดับแรกเลยของพัฒนาการของลูกๆของเรา ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้ก่อนว่าคำ 2 คำนี้มีความหมายว่าอะไร
ความหมายของ IQ และ EQ
IQ และ EQ เป็นคำย่อที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการปรับตัวและเชื่อมโยงกับความสำเร็จในชีวิตที่แตกต่างกัน ซึ่งทั้งสองค่านี้มีความสำคัญและมีบทบาทที่สำคัญในการพัฒนาสังคมและส่วนตัวของเรา
- IQ (Intelligence Quotient) – อัจฉริยะ IQ หมายถึง ความสามารถในการทำงานทางปัญญา เช่น ความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ภาษา หรือการคิดวิเคราะห์ นับเป็นตัววัดที่ใช้ในการประเมินความสามารถทางปัญญาของบุคคล คะแนน IQ มักถูกให้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 100 โดยคนที่มีคะแนน IQ มากกว่า 100 จะถือว่ามีความสามารถทางปัญญามากกว่าเฉลี่ย ในทางปฏิบัติ IQ มักถูกใช้ในการเลือกบุคคลสำหรับงานที่ต้องการความสามารถทางปัญญาสูง เช่น งานทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม หรือการแพทย์
- EQ (Emotional Quotient) – ความสามารถทางอารมณ์ EQ หมายถึง ความสามารถในการจัดการกับความรู้สึกและสร้างความเข้าใจในการติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น หรือตัวเอง ความสามารถในการรับรู้และจัดการกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นมีบทบาทสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ในสังคมและการทำงาน คนที่มี EQ สูงมักมีความสามารถในการรับฟังผู้อื่น แก้ไขข้อขัดแย้ง และสร้างความสัมพันธ์ที่มีความสุขและมีประสิทธิภาพ
ความสำคัญของ IQ และ EQ คือการรักษาความสมดุลของตัวนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่มีผลสำคัญต่อความสำเร็จและความมั่นคงในชีวิต ความสามารถทางปัญญา (IQ) ช่วยให้เด็กๆสามารถแก้ไขปัญหาและปรับตัวในสถานการณ์ทางการทำงาน ในขณะที่ความสามารถทางอารมณ์ (EQ) ช่วยให้เด็กๆสามารถเชื่อมโยงและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ดังนั้น การพัฒนาทั้งสองด้านนี้เป็นสิ่งสำคัญในการเติบโตและประสบความสำเร็จในชีวิตของลูก

การพัฒนา IQ (Intelligence Quotient) และ EQ (Emotional Quotient) เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเติบโตและประสบความสำเร็จในชีวิต “HappyKidsStation” เลยคัดกิจกรรมดีๆ สามารถทำได้ง่ายๆในบ้าน ที่ช่วยในการพัฒนาทั้ง IQ และ EQ ให้กับลูกๆของเรา
กิจกรรมเพื่อพัฒนา IQ:
- การอ่าน : การอ่านนิทานก่อนนอน ช่วยเพิ่มความรู้และสร้างความคิดสร้างสรรค์ แนะนำให้อ่านด้วยเนื้อหาที่เด็กๆชอบและสนใจ ระหว่างอ่านนิทานก็คอยถามถึงความคิดของเด็กๆในขณะนั้น ด้วยการถามคำถามเช่น ถ้าหนูเป็นคนนี้เจอเหตุการ์ณแบบในหนังสือ หนูจะแก้ปัญหาหรือตัดสินใจอย่างไร
- การแก้ปัญหา : แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรือตัดสินใจทางวิเคราะห์เป็นการฝึก IQ ให้แข็งแกร่ง เล่นเกมปริศนาหรือสร้างประเด็นสำหรับการแก้ปัญหาด้วยกัน “การเรียนจินตคณิตก็เป็นอีกหนึ่งในการฝึกแก้ปัญหาและฝึกให้คิดอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอนเช่นกัน”
- การเรียนรู้ภาษาใหม่ : เรียนรู้ภาษาใหม่ช่วยในการเปิดโอกาสใหม่และเพิ่มความสามารถในการสื่อสาร เพราะภาษาเป็นสิ่งสำคัญ การที่เด็กๆ ได้รู้หลายๆภาษาแล้ว ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศเจ้าของภาษานั้นๆอีกด้วย “การเรียนรู้ภาษาควรเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ เน้นการนำไปใช้มากกว่าท่องจำ”
- การฝึกความจำ : ฝึกความจำด้วยเกมหรือเทคนิคการจำช่วยให้รู้จักจดจำข้อมูลได้ดีขึ้น การเล่นเกมส์จับคู่ภาพ เกมส์ทายคำ นอกจากจะช่วยฝึกความจำแล้วยังสามารถเพิ่มสมาธิได้ดีอีกด้วย
กิจกรรมเพื่อพัฒนา EQ :
- การฝึกการรับรู้อารมณ์ : ให้เด็กๆได้ทำงานของตนเอง เช่น การอาบน้ำ ทานอาหาร และแนะนำให้เด็กได้ช่วยทำงานบ้านเล็กๆน้อย เช่น ล้างจาน รดน้ำต้นไม้ เมื่อเด็กๆทำสำเร็จให้คุณพ่อคุณแม่ชื่นชมอย่างจริงใจ จะทำให้เด็กได้รับรู้และภูมิใจในตนเอง ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้เด็กๆได้
- การฝึกการสื่อสาร : ฝึกการสื่อสารอย่างมีสติและรับฟังอย่างใจเย็น โต้แย้งและแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ให้เด็กๆได้เล่าเรื่อง ได้อธิบายด้วยคำถามปลายเปิด รับฟังเหตุผลในมุมมองของผู้อื่น คุณพ่อคุณแม่ต้องใจเย็นด้วยนะคะเพราะบางครั้งมุมมองของเรากับของลูกไม่เหมือนกัน
- การฝึกการจัดการความเครียด : การฝึกในการสร้างกลไกการหลีกเลี่ยงความเครียดและการใช้เทคนิคการผ่อนคลายอาบน้ำ, การฝึกโยคะ, หรือการทำสมาธิ พาเด็กๆไปปลดปล่อยพลังบ้าง พาไปสวนสาธารณะ พาไปวิ่งเล่นกันบ้าง บางครั้งคุณพ่อคุณแม่ก็ลองปล่อยตัวปล่อยใจแล้วกลายร่างเป็นเด็กบ้างค่ะ เป็นเพื่อนเล่นกับลูก เป็นบัดดี้กับลูกนอกจากจะได้คลายเครียดแล้วยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย
- การทำงานร่วมกับผู้อื่น : การทำงานในกลุ่มหรือทีมช่วยในการพัฒนาการรับรู้อารมณ์และการสื่อสารกับผู้อื่น.
- การเรียนรู้ในภาวะที่แตกต่าง : การเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมและมุมมองที่แตกต่างของผู้คนอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี.
การพัฒนาทั้ง IQ และ EQ เป็นกระบวนการที่ต้องฝึกฝนตลอดชีวิต และควรใส่ใจในการปรับปรุงทักษะเหล่านี้เพื่อให้สามารถรับมือกับทุกสถานการณ์และต่อสู้กับความท้าทายในชีวิตได้อย่างเต็มที่

คุณพ่อคุณแม่มีบทบาทสำคัญมากในการพัฒนา IQ (Intelligence Quotient) และ EQ (Emotional Quotient) ของลูก
1. การสร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นการเรียนรู้:
- ให้ลูกมีการเข้าถึงหนังสือและนิทานต่าง ๆ ในบ้าน
- สร้างบรรยากาศที่สนับสนุนการค้นพบและการทบทวนความรู้
2. การส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา:
- ให้โอกาสให้ลูกเล่นเกมที่ต้องใช้การคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
- สนับสนุนในการตั้งคำถามและสร้างความสนใจในการค้นหาคำตอบ
3. การสร้างความรู้สึกของความมั่นใจ:
- ช่วยให้ลูกสร้างความมั่นใจโดยการเสริมสร้างทักษะและความสามารถของลูก
- ให้คำปรึกษาและสนับสนุนในการเรียนรู้จากความผิดพลาด
4. การสนับสนุนในการเรียนรู้ภาษา:
- การพูดคุยและการอ่านเรื่องราวเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาทักษะทางภาษาของลูก
- สนับสนุนการฝึกการอ่านและการเขียน
5. การสร้างการรับรู้อารมณ์และความสามารถในการจัดการ:
- ให้สิ่งดี ๆ และสิ่งแย่ ๆ ในชีวิตเป็นตัวอย่างให้ลูก
- สอนลูกวิธีการรับรู้และแสดงความรู้สึก รวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหาและการจัดการกับความเครียด
6. การสร้างความเข้าใจในการติดต่อสัมพันธ์:
- สนับสนุนให้ลูกมีความเข้าใจในความรู้สึกของผู้อื่นและให้ความเคารพในมุมมองของผู้อื่น
- สอนลูกวิธีการฟังและสื่อสารอย่างมีสติ
7. การเป็นตัวอย่าง:
- พ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดีในการแสดงความอารมณ์และการจัดการกับสถานการณ์ที่แย่
- แสดงความรักและความเข้าใจต่อลูก
การส่งเสริมความสามารถในด้าน IQ และ EQ ของลูกเป็นกระบวนการที่ต้องระมัดระวังและต้องทำอย่างต่อเนื่อง และบทบาทของพ่อแม่ในกระบวนการนี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีผลต่อการพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจของลูกในระยะยาว การสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและการให้คำปรึกษาและสนับสนุนที่เหมาะสมสามารถช่วยในการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการพัฒนา IQ และ EQ ของลูกได้.

เด็กที่มี EQ (Emotional Quotient) ดีจะมีลักษณะและพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรับรู้และจัดการกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นได้ดี
- รับรู้อารมณ์ของตนเอง:
- เด็กมีความรู้สึกและสามารถระบุอารมณ์ของตนเองได้อย่างชัดเจน เช่น รู้ว่าตนเองกำลังเศร้าหรือมีความสุขอยู่ในขณะใด
- การจัดการความรู้สึก:
- เด็กสามารถจัดการกับความรู้สึกของตนเองโดยไม่ทำให้มีอารมณ์เสียหายหรือทำอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น
- การเรียนรู้จากประสบการณ์:
- เด็กมีความสามารถในการเรียนรู้จากประสบการณ์ทั้งที่ดีและไม่ดี และใช้ประสบการณ์เหล่านี้ในการพัฒนาตนเอง
- การสื่อสาร:
- เด็กสามารถสื่อสารอย่างมีสติและมีความเข้าใจ รับฟังผู้อื่นอย่างใจเย็น และสามารถแสดงความรู้สึกและความคิดออกมาอย่างชัดเจน
- การสร้างความสัมพันธ์:
- เด็กมีความสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น รับรู้และเข้าใจความรู้สึกและความคิดของผู้อื่น และสามารถรับฟังและร่วมมือกับผู้อื่นในสถานการณ์ต่าง ๆ
- การแก้ไขข้อขัดแย้ง:
- เด็กมีความสามารถในการแก้ไขข้อขัดแย้งและการควบคุมสถานการณ์ที่ต้องการการตรวจสอบความเข้าใจและความสามารถในการต่อรอง
- ความรับผิดชอบสังคม:
- เด็กมีความเข้าใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบทางสังคมและมีการกระทำอย่างมีสติในการช่วยเหลือผู้อื่นหรือสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
การมี EQ ที่ดีในเด็กจะช่วยพัฒนาทักษะสำคัญที่จำเป็นในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น รับมือกับความเครียดและปัญหาทางอารมณ์ รวมถึงการเตรียมตัวสำหรับอนาคตในอาชีพและชีวิตส่วนตัวของพวกเขาอย่างมั่นคงและมั่นใจ HappyKidsStation ของเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกบ้านเลยนะคะ ที่ตั้งใจและพร้อมมอบทักษะดีๆ ให้กับเด็กๆ
นัดหมายทดลองเรียนได้ที่ https://www.hksonline.net/นัดทดลองเรียน/
ติดตามข่าวสารและกิจกรรมดีๆได้ที่ https://www.facebook.com/HappyKidsStation