โซเชียลมีเดีย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันไปแล้ว การใช้โซเชียลมีเดียผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟนมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะเสพติดได้ (Social Addiction) การติดโซเชียลมีเดียนั้นมีผลกระทบกับโดปามีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สร้างขึ้นในสมอง ซึ่งเรียกว่าฮอร์โมน “รู้สึกดี” เมื่อคนที่ใช้โซเชียลมีเดียรู้สึกว่าสนุก สมองจะหลั่งสารโดปามีนออกมา และทำให้เสพติดการอยากเล่นต่อนานๆได้ ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ และยังเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคซึมเศร้า เครียด สมาธิสั้น และไบโพลาร์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็ก
เสพติดโซเชียลมีเดียมากเกินไป ส่งผลกระทบอะไรบ้าง?
1. มีปฏิสัมพันธ์ลดลง เพราะเลือกที่จะใช้เวลาออนไลน์มากกว่ากิจกรรมในชีวิตจริง เช่น การพบปะเพื่อนฝูง การเข้าเรียนในโรงเรียนและความสนใจส่วนตัว
2. ไขว้เขวจากเป้าหมาย เพราะใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเล่นโซเชียลทั้งวัน
3. เกิดทุกข์กับการเปรียบเทียบ เกิดการเปรียบเทียบชีวิตหรือเรื่องราวของตนเองกับเพื่อนที่เจอบนโลกออนไลน์
4. เรียกร้องความสนใจ เช่น ต้องการจำนวน Like มากขึ้น จากการโพสต์
5.ไม่มีความเป็นส่วนตัว ข้อมูลที่โพสต์อาจถูกค้นหาและจะคงอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตตลอดไป
6. อาจทำให้มีความขัดแย้งกับผู้อื่นในโลกโซเชียลมีเดีย เจอคำหยาบคาย คำด่า คำตำหนิต่างๆ
7.ละเลยสุขอนามัยส่วนบุคคล โภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับยากขึ้น แนะนำไม่ควรเล่นโทรศัพท์ แท็บเล็ตก่อนนอน
การติดโซเชียลมีเดียเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเด็กและวัยรุ่น เด็กติดโซเชียลมีเดียอาจมีอาการตามที่กล่าวข้างต้น คุณอาจต้องช่วยเหลือเขาเพื่อไม่ให้ติดโซเชียลมีเดียมากเกินไป ต่อไปนี้เป็นวิธีช่วยเหลือเด็กที่ติดโซเชียลมีเดีย หันเหความสนใจไปยังกิจกรรมอื่น ๆ เช่น เล่นกีฬา ออกกำลังกาย ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง หากมีอาการรุนแรง คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือ
อีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้เด็กใช้โซเชียลมีเดียน้อยลง คือ การหากิจกรรมใหม่ๆให้เด็กได้ลองทำ หรือ ให้ทำกิจกรรมที่ได้ฝึกสมาธิ เช่น การเรียนจินตคณิต เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่พัฒนาสมองทั้งสองซีก โดยใช้ตัวเลข ลูกคิด หรือนิ้วมือ เป็นสื่อในการเรียน จะทำให้มีสมาธิที่ดีขึ้นมากจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ ในเวลาที่นานขึ้น เพราะการเรียนจินตคณิตเป็นการคิดเลขโดยใช้จินตภาพซึ่งต้องใช้ความนิ่งของสมาธิค่อนข้างมาก
แหล่งที่มา : rabbitcare.com
