โรค หรือ ไวรัส ที่มากับพร้อมกับฤดูหนาว มักจะเกิดขึ้นกับเด็กได้ง่าย ผู้ปกครองควรเฝ้าระวัง เพราะอุณหภูมิความเย็นในอากาศ ถือเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อชีวิตและการอยู่รอดของเชื้อไวรัสได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเด็กเล็กวัยไม่เกิน 3 ขวบ รวมไปถึงผู้สูงอายุ คนป่วย ที่ร่างกายไม่แข็งแรง มีภูมิต้านทานต่ำ สามารถติดและเจ็บป่วยได้ง่าย ทั้งแบบติดต่อและไม่ติดต่อ ซึ่งโรคไวรัสยอดฮิตในหน้าหนาว มีดังนี้

1. โรคไข้หวัด : เป็นโรคที่พบได้ในทุกฤดู แต่ในฤดูหนาวจะพบมากขึ้น เพราะด้วยอากาศที่เย็นทำให้ติดเชื้อและป่วยได้ง่ายขึ้น และติดได้ง่ายขึ้นในเด็กเล็กเนื่องจากภูมิต้านทานในเด็กจะต่ำกว่าในผู้ใหญ่

อาการ : ไอ จาม น้ำมูกใส คัดจมูก ไข้ต่ำ ปวดเมื่อยตามตัว

การป้องกัน : ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ล้างมือบ่อยๆ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย

วิธีรักษา : นอนพักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำบ่อยๆ กินยาตามอาการ สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

2. โรคไข้หวัดใหญ่ : เป็นโรคที่มีลักษณะคล้ายกับโรคไข้หวัดธรรมดา แต่จะมีอาการที่รุนแรงกว่า ซึ่งไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Ifluenza Virus) โดยสายพันธุ์ที่พบการระบาดอยู่บ่อยๆ มีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ A และสายพันธุ์ B มักติดต่อผ่านทางละอองฝอยจากน้ำลาย น้ำมูก หรือเสมหะของผู้ป่วย

อาการ : มีไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย รู้สึกปวดเมื่อยตามตัว หลังจากนั้นอาจมีอาการคัดจมูก มีน้ำมูก เจ็บคอ และไอแห้งตามมา ในเด็กบางรายอาจพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วงร่วมด้วย

การป้องกัน : กลุ่มที่มีความเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ควรได้รับวัคซีนไข้หวัด ใหญ่ทุกปี ไม่คลุกคลีหรือใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วย ล้างมือบ่อยๆ ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง

วิธีรักษา : ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรับยาฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ กินยาตามอาการ เช็ดตัวลดไข้ นอนพักผ่อนมากๆ

3. โรคปอดบวม : เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้ออื่นๆ รวมถึงโรคต่างๆ ที่ส่งผลให้เกิดการอักเสบที่ปอดจนกลายเป็นหนองในถุงลม ทำให้ร่างกายไม่สามารถรับออกซิเจนได้เพียงพอ เชื้อต่างๆ ที่ทำให้เกิดปอดอักเสบ สามารถติดต่อกันได้ผ่านละอองฝอยของน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ที่มีเชื้ออยู่ โรคนี้พบมากในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 4 ปี

อาการ : ไข้สูง ไอมีเสมหะมาก หอบเหนื่อย แน่นหน้าอก มักเกิดหลังไข้หวัดเรื้อรัง หรือในผู้ที่เป็นโรคหอบหืด

การป้องกัน : มื่อเริ่มเป็นไข้หวัดให้รีบรักษา ดื่มน้ำมากๆ ในเด็กเล็กและผู้สูงอายุควรได้รับวัคซีนป้องกันปอดบวม ผู้ที่เป็นโรคหอบหืดควรใช้ยาควบคุมอาการสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง

วิธีรักษา : ควรพบแพทย์เพื่อรับยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม ให้สารน้ำที่เพียงพอ ให้ยาตามอาการ เช็ดตัวลดไข้ อาจพ่นยาขยายหลอดลมเพื่อบรรเทาอาการ

4. โรคหัด : เป็นโรคที่มักพบบ่อยในเด็กเล็กและเด็กในวัยเรียน มักระบาดในช่วงปลายฤดูหนาวไปจนถึงช่วงฤดูร้อน โดยเกิดจากเชื้อไวรัสรูบีโอราไวรัส ที่ติดต่อได้จากการรับเอาละอองฝอยของผู้ป่วยเข้าสู่ร่างกายผ่านการไอ จาม หรือสัมผัสสิ่งที่มีเชื้อปนเปื้อน

อาการ : คล้ายไข้หวัด คือมีไข้ น้ำมูกไหล ตาแดง ไอแห้งๆ หลังมีไข้3-4วัน มีผื่นแดงขั้นที่หลังใบหู ใบหน้า ลาม มายังลำตัว แขนขา อาจพบตุ่มที่กระพุ้งแก้มและฟันกราม หลังผื่นขึ้น2-3วันไข้จะเริ่มลง แต่ต้องระวังอาการแทรกซ้อนที่สำคัญ เช่น หูชั้นกลางอักสบ ปอดบวม สมองอักเสบ ถ่ายเหลว

การป้องกัน : เด็กควรได้รับวัคซีน หัด-หัดเยอรมัน-คางทูม ตามเกณฑ์ที่กำหนด เนื่องจากเชื้อสามารถติดได้ง่าย

วิธีรักษา : ควรหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วยและหลีกเลี่ยงการไปในที่มีคนพลุกพล่าน หมั่นล้างมือบ่อยๆ

ดังนั้น ช่วงหน้าหนาวนี้อยากให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังโรคเหล่านี้ให้ดี หากลูกๆหรือเด็กๆ เข้าเกณฑ์รับวัคซีนก็ควรพาไปรับที่โรงพยาบาล จะได้มีภูมิคุ้มกัน แข็งแรง ไม่ป่วย หรือช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ และไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลได้ค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *