กำมือบ่อยๆ ดีอย่างไร ?

การกำมือบ่อยๆส่งผลดีต่อร่างกายของเรามากว่าที่เราคิด

การกำมือ

“การกำมือ” (Meditation) เป็นการฝึกฝนจิตใจและสมองอย่างก่อนจะเกิดผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของเรา นักศึกษาและนักวิจัยได้ศึกษาและพิสูจน์ว่าการกำมือมีประโยชน์มากมาย ดังนี้:

  1. ลดความเครียดและซึมเศร้า: การกำมือช่วยลดระดับคอร์ติซอลในร่างกายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเราต้องจัดการกับสถานการณ์ที่เครียด นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินในสมองซึ่งเป็นฮอร์โมนสุขภาพที่ช่วยลดซึมเศร้าได้อีกด้วย.
  2. เพิ่มความสม่ำเสมอและความสนใจ: การกำมือช่วยฝึกสมาธิและการมีสติ ทำให้เรามีความสามารถในการระบบความคิดและพิจารณาข้อมูลในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งเป็นประโยชน์ในการทำงานและชีวิตประจำวัน.
  3. เพิ่มความสัมพันธ์ที่ดี: การกำมือช่วยเพิ่มความสามารถในการรับฟังและเข้าใจผู้อื่น ทำให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเราดีขึ้นและสร้างความเข้าใจที่ดีกับผู้อื่น.
  4. เพิ่มสมรรถนะทางสมอง: การกำมือสามารถเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้และจดจำ ทำให้สมองของเราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ.
  5. ปรับปรุงความรู้สึกของความสุข: การฝึกกำมือช่วยเรามองเห็นความสุขในปัจจุบันและเพิ่มความสำคัญในชีวิตในขณะเดียวกัน.
  6. ลดอาการปวดเมื่อร่วมกับการบำบัด: การกำมืออาจช่วยลดอาการปวดเมื่อใช้ร่วมกับการรักษาทางการแพทย์ ซึ่งช่วยให้การเยียวยากลับสู่สุขภาพมีผลดีขึ้น.
  7. เพิ่มการรับรู้ต่อสภาพแวดล้อม: การกำมือช่วยให้เรามีความตั้งใจในการรับรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวเรามากขึ้น ทำให้เราเชื่อมต่อกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น.

การกำมือมีผลต่อสมองและสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอย่างเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้น หากคุณยังไม่ได้ลองการกำมือ คุณอาจต้องพิจารณาที่จะเริ่มต้นฝึกฝนเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและความสมดุลในชีวิตของคุณ.

การเรียนจินตคณิตเป็นอีกผลพลอยได้จากการกำมือ” เพราะระหว่างเรียน ผู้เรียนจะต้องมีการใช้นิ้วมือทดแทนสัญลักษณ์ตัวเลขทางคณิตศาสตร์ การกำมือ แบมือ ตลอดการเรียนจะช่วยให้สมองและร่างกายได้ทำงานร่วมกันอย่างมีนัยยะสำคัญ

สมองซีกซ้ายและซีกขวา

สมองมนุษย์ประกอบด้วยสองของสมองหลัก ซึ่งเรียกว่าสมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา แต่ละซีกของสมองมีหน้าที่และฟังก์ชันที่แตกต่างกัน:

  1. สมองซีกซ้าย (Left Hemisphere):
    • ความสนใจเชิงตัวเลขและภาษา: สมองซีกซ้ายมีบทบาทสำคัญในการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขและภาษา ซีกซ้ายควบคุมการพูดและการเขียน และช่วยให้เราเข้าใจและสื่อสารผ่านภาษาได้.
    • ความสามารถในการวิเคราะห์และแก้ปัญหา: สมองซีกซ้ายช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล แก้ปัญหา และการทำงานที่เกี่ยวข้องกับตรรกศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์.
    • ความสม่ำเสมอและความมีระเบียบ: สมองซีกซ้ายมีแนวโน้มที่จะสร้างความมีระเบียบและความสม่ำเสมอในการทำงานและการคิด.
  2. สมองซีกขวา (Right Hemisphere):
    • ความสามารถในการรับรู้และความสวยงาม: สมองซีกขวามีบทบาทในการรับรู้ความสวยงามของศิลปะและเสน่ห์ของธรรมชาติ เข้าใจภาพลวงตาและสัมผัสของสิ่งต่างๆ.
    • ความสามารถในการระบบสิ่งแวดล้อม: สมองซีกขวาช่วยในการระบบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม รู้จักรูปแบบของสิ่งรอบตัวเรา และช่วยให้เรามีความสามารถในการเข้าใจบริบทสังคมและความรู้สึกของผู้อื่น.
    • การรับรู้อารมณ์และมีสมาธิ: สมองซีกขวาช่วยในการรับรู้อารมณ์ การรู้สึก และความมีสมาธิ ช่วยให้เราเข้าใจและรับมือกับความรู้สึกของเราและผู้อื่น.

ความสัมพันธ์ระหว่างสมองซีกซ้ายและสมองซีกขวาไม่ใช่เรื่องเรียบง่าย สมองมีการประสานงานกันเพื่อให้เราสามารถทำงานและมีประสิทธิภาพในชีวิตประจำวัน ความสมดุลระหว่างสองซีกของสมองนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรามีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา สื่อสาร และสร้างความสมดุลในชีวิตของเรา.

จินตคณิต คิดเลขด้วยนิ้วมือ

หากคุณพ่อคุณแม่บ้านไหน ที่ต้องการเพิ่มสมาธิและพัฒนาทางสมองให้กับลูกๆ สามารถให้ลูกเรียนรู้วิชาจินตคณิตหลักสูตรเฉพาะของเรา ที่เน้นการใช้นิ้วมือในการคิดคำนวนแบบครบวงจร ทั้งการบวก การลบ การคูณและการหาร หลักสูตรเดียวในประเทศที่ไม่ใช้เครื่องมือ ลูกๆ สามารถนำทักษะนี้ไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน และสามารถคิดเลขได้ทันทีแม้เรียนเพียงครั้งแรก

ติดตามเพจโรงเรียนของเราได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ https://www.facebook.com/HappyKidsStation

ติดต่อสอบถามข้อมูลนัดหมายเพื่อทำการทดลองเรียนได้ทางช่องทางนี้ค่ะ https://www.hksonline.net/นัดทดลองเรียน/